อัตราค่าบริการ

ราคาต่อท่าน

LT - 17

เดินทาง

5 คน

เดินทาง

6 - 9 คน

เดินทาง

10 - 14 คน

เดินทาง

15 - 19 คน

เดินทาง

20 คนขึ้นไป

พักเดี่ยว

เพิ่ม

มิถุนายน  - กรกฎาคม 65

11,288

10,888

9,888

9,288

    8,888

2,000

ราคาเด็กตั้งแต่ 10 ขวบ           มีเตียงเสริม พักกับผู้ใหญ่  

9,900

9,500

8,500

7,900

7,700

-

ราคาเด็กไม่เกิน 8 ขวบ         ไม่มีเตียงเสริม พักกับผู้ใหญ่

8,900

8,500

7,500

6,900

5,700

-

ราคานี้สำหรับจำนวนคนท่องเที่ยวที่เดินทางตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไป และเป็นราคาสำหรับคนไทยเท่านั้น 

หากจำนวนผู้เดินทางไม่ถึงตามจำนวนดังกล่าว ทางบริษัทขอปรับราคา แต่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน

**เก็บทิปให้ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ 499.-โอนรวมกับค่าทัวร์โปรแกรม**

Date

Programme

  Bus

    B

    L

    D

        HOTEL

  1

อุดรธานี -  หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์ – สวนเชียงคูน – พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว – พระธาตุหลวง –นั่งรถไฟความเร็วสูง 

นอนหลวงพระบาง

     

Villa Mahasok

      Hotel     

   2

ใส่บาตรข้าวเหนียว –พระธาตุพูสี – วัดเชียงทอง – พระราชวังหลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี – นั่งรถไฟความเร็วสูง นอนวังเวียง

Thavisouk Hotel and Island หรือเทียบเท่า

 

  3

วังเวียง  – พายเรือคายัค – ถ้ำจัง – บลูลากูน –– ขอพรพญานาคก่อนกลับไทย – ร้านดิวตี้ฟรี
 

วันแรก   

อุดร หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์ – สวนเชียงคูน – พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว – พระธาตุหลวง – นั่งรถไฟความเร็วสูง - นอนหลวงพระบาง

08.00 น.

พร้อมกันทีบริษัท เวิลด์ธาราแทรเวลเซอรวิส   รับท่านออกเดินทางไปด่านสะพานมิตรภาพ  ไทย-ลาว

09.30 น.

รถตู้ VIP ของบริษัทรับท่านหน้าด่าน ตม.หนองคาย หลังจากที่ท่านผ่านพิธี ตม.ไทยแล้ว รถตู้ที่จะนำท่านข้ามสะพานฯ จะรอรับท่านที่หลังด่าน ตม.ไทย เพื่อข้ามไปส่งยังฝั่งประเทศลาว และหลังจากท่านผ่าน ตม.ลาวแล้ว      รถตู้ VIP พร้อมนำท่านเดินทางเข้านครห ลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เดินทางเยี่ยมชมวัดเชียงคูณ “สวนเชียงคูณ” สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2501 โดยหลวงปู่บุญลุสุลิลาฏ ปัจจุบันท่านเป็นพระนักพัฒนา ศิลปิน และประติมากรที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว และยังเป็นที่รู้จักของคนไทยที่ให้ความนับถือด้วย

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าน 23 RNB Restaurant ( 1 )

บ่าย

จากนั้นนำทุกท่านมาชม ประตูชัย หรืออนุสาวรีย์ประตูชัย (Victory Monument) สถาปัตยกรรม ผสมผสานลาว ล้านช้าง กับฝรั่งเศส ตั้งตระหง่านสูงเด่นอยู่ ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อรำลึกถึงวีรชนของชาติ ที่ เสียสละ เพื่อชาติบ้านเมืองมา  ทุกยุค ทุกสมัย ชั้นบนสุดท่านสามารถชมทิวทัศน์ของเวียงจันทน์ได้รอบทิศทาง (ในการขึ้นชมกรุณาเช็คกับไกด์ของท่านอีกครั้ง)นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว (Hor Phra Kaew Museum) ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก่อนที่จะถูก อันเชิญมาไว้ที่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ร. 1) เมื่อปี ค.ศ. 1778  นำทุกท่านไหว้พระขอพร พระธาตุหลวง หรือพระเจดีย์โลกจุฬามณี เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ สร้างใน สมัยเดียวกันกับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดยพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ และพระอรหันต์ 5  องค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่าของพระพุทธเจ้าไว้ในองค์พระธาตุ เดิมเป็นพระธาตุองค์เล็กๆ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้นำพาประชาชน สร้างพระธาตุองค์ใหญ่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้จนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นนำท่านเข้าชม ศูนย์หัตถกรรมเครื่องเงินและสิ่งทอ เลือกซื้อสินค้าราคาถูกโดยฝีมือคนลาว อาทิ ผ้าไหม เครื่องเงิน กาแฟดาว และของที่ระลึกอื่นๆ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงหลวงเวียงจันทน์ Speed Train เพื่อเดินทางไปยังหลวงพระบาง โดยจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเดินทาง ท่านจะได้รับประสบการณ์ใหม่ ได้ดูวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามจาก 2 ข้างทางที่ต้องผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุเขาถึง 33 อุโมงค์ด้วยกัน และต้องข้ามสะพานที่สร้างผ่านหุบเหวต่างๆอีกหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มิติการมองแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเดินทางถึง สถานีรถไฟความเร็วสูงหลวงพระบาง นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก หลังจากนั้นนำท่านไปรับประทานอาหารเย็น ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียง และหรูหรามากที่สุดในหลวงพระบาง ต่อจากนั้นให้ทุกท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยเดินเที่ยวอิสระที่ ตลาดมืด คือ ตลาดกลางคืนที่เกิดขึ้นในหลวงพระบางระหว่างเวลา 16:00 น. เป็นต้นไป จนกระทั่งถึง 23:00 น. ซึ่งรัฐบาลจัดให้ช่วงเวลาดังกล่าวของถนนสายนี้เป็นเวลาของถนนคนเดิน รถทุกชนิดจะไม่สามารถเข้าออกหรือแล่นผ่านได้ โดยจะเริ่มตั้งแผงร้านค้าที่มีร่มสีน้ำเงินและสีแดงสลับกันไปนับร้อย ที่ต้องเป็นสีนี้เพราะเป็นสีประจำธงชาติของลาวนั่นเอง โดยเริ่มตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมีเบเกอรี่ ต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อย

เย็น

รับประทานอาหารเย็น ณ L'Elephant Restaurant ( 2 )

ที่พัก      

Villa Mahasok Hotel หรือเที่ยบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สอง     

ใส่บาตรข้าวเหนียว –พระธาตุพูสี – วัดเชียงทอง – พระราชวังหลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี – นั่งรถไฟความเร็วสูง นอนวังเวียง

เช้ามืด

วันนี้เชิญชวนให้ทุกท่านนุ่งซิ่นห่มสไบแต่งกายชุดพื้นเมือง เพื่อ ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจ ะออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง ( ค่าสำรับใส่บาตรรวมในรายการ ) จากนั้นให้ท่านได้ออกกำลังกายเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุพูสี สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปาลาว ภูษีนี้ หมายถึง “ภูศรี” คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอยเลยทีเดียว ถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจจากนั้นให้ท่านเดินชม ตลาดเช้าหลวงพระบาง ซึ่งเป็น ตลาดสดให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง ผลไม้นานาชนิด และชมของป่าซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตาและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมาก ต่อจากนั้นให้ท่านเช็คอิน อาหารเช้า ณ ประชานิยม ( 3 ) ร้านอาหารพื้นเมืองของคนหลวงพระบางที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมาก

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ( 4 )

นำท่านถ่ายรูปและนำชม วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตุกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม จากนั้นนำทุกท่านเข้าสู่ พระราชวังหลวงพระบาง เป็นวังที่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย และนำท่านนมัสการหอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่ที่นี่ด้วย จากนั้นพาท่านเดินทางไปยัง ท่าเรือหลวงพระบาง เพื่อล่องเรือตามลำน้ำโขงไปยัง ถ้ำปากอู (ถ้ำติ่ง) ชมความงามริมแม่น้ำโขง ที่เรียกว่าถ้ำปากอูเพราะว่า อยู่ในภูเขาลูกใหญ่อยู่ริมแม่น้ำโขงเลย และอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านปากอู และเป็นจุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำโขงและแม่น้าอูมาประจบกัน ถ้ำติ่งมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำ มีหินงอกหินย้อยเล็กๆน้อยๆ สวยงาม พอเข้าไปถึงบรรยากาศข้างในถ้ำเย็นมากก และมีส่วนที่ลึกเข้าไปเขาจะปิดไม่ให้เข้า พระพุทธรูปที่นี่มีหลายขนาดมีทั้งพระปางประทานพร พระยืน พระปางห้ามญาติ ในสมัยก่อน เป็นที่บวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่งที่นี่ เพราะชาวลาวนั้นมีการนับถือผี เทวดา ผีฟ้า (ฟังแล้วเข้าถึงความขลังไปอีกก) ซึ่งเขาเชื่อว่าหินยอกหินย้อยในถ้ำก็คือที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีในน้ำและในถ้ำ

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ ล่องน้ำโขง ( 5 )

บ่าย

สมควรแก่เวลานำท่านล่องเรือกลับไปขึ้นที่ ท่าเรือบ้านซ่างไห เพื่อเดินทางต่อไปยัง น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากหลวงพระบาง 30กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยผ่านหมู่บ้านชนบทริมถนน 2 ข้างทาง เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง มีแม่น้ำใสสีมรกตตลอดปี ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก ให้เวลาอิสระดื่มด่ำกับธรรมชาติ จากนั้นนำทุกท่านขึ้นเดินทางไปยัง สถานีรถไฟความเร็วสูง       หลวงพระบาง ( C81 ) เพื่อเดินทางไปยังวังเวียง โดยจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเดินทาง เมื่อเดินทางถึง       สถานีรถไฟความเร็วสูงวังเวียง

เย็น

รับประทานอาหารเย็น ณ ภูอ่างคำ ( 6 )

ที่พัก      

Thavisouk Hotel and Island หรือเทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สาม     

วังเวียง  – พายเรือคายัค – ถ้ำจัง – บลูลากูน –– ขอพรพญานาคก่อนกลับไทย – ร้านดิวตี้ฟรี

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารชั้นเจ็ดของโรงแรม ( 7 )

ให้ท่านได้ พายเรือคายัค ไปตามแม่น้ำซองซึ่งไหลผ่านวังเวียงและทอดยาวไปถึงเมืองเวียงจันทน์ ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ภูเขาที่มีทุ่งนาสีเขียวขจี, หมู่บ้านที่คึกคัก และแม่น้ำอันเงียบสงบ สมควรแกเวลาพาท่านเช็คเอาท์เดินทางโดย รถตู้ VIP สมควรแก่เวลานำทุกท่านเดินทางสู่วังเวียง เพื่อเข้าเที่ยวชม ถ้ำจัง “กุ้ยหลินเมืองลาว” และสะพานข้ามแม่น้ำซอง สะพานสีส้ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของถ้ำจังเพราะสะพานจะมีสีสันสะดุดตา แล้วเดินทางขึ้นบันได 147 ขั้น เป็นทางลาดชัน เมื่อเดินขึ้นไปถึงก็จะพบกับถ้ำจัง ซึ่งแบ่งเป็น 2 โซนด้วยกันคือ ถ้ำฝั่งซ้ายมือ เมื่อเดินเข้าไปก็จะไปถึงจุดชมวิวจากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำซอง กับทุ่งนาสีเขียวกับธรรมชาติที่สมบูรณ์ของเมืองวังเวียง ส่วนโซนขวามือสัมผัสกับหินงอกหินย้อยในรูปลักษณ์ต่างๆ ภายในถ้ำอากาศเย็นสบาย เนื่องจากมีแม่น้ำไหลออกจากปากถ้ำสู่พื้นด้านล่าง หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ ถ้ำปูคำ / บลูลากูน หรือชาวต่างชาติรู้จักในนาม Tam Pu kam / Blue Lagoon ภายในประดิษฐานพระนอนสำริดจากประเทศไทยด้านหน้าทางขึ้นถ้ำปูคำจะมีสระน้ำมรกตที่ใสสะอาดสีเขียวสวยมากๆและมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกัน ทางขึ้นไปชมถ้ำนั้นจะสูงชันสักเล็กน้อย ถ้ำปู่คำ เป็นถ้ำขนาดใหญ่มากอีกแห่ง มีพระพุทธรูปนอน อยู่ด้านใน มีลำแสงส่องเข้ามาด้านในถ้ำ จากปากถ้ำ และช่องเขาอีกด้านสวยงามมากๆ กิจกรรมในถ้ำปูคำที่เป็นไฮไลท์ ต้องเดินลึกลงไปในถ้ำ อาจได้พบเห็นปูทองคำถ้าได้เห็นจะโชคดีมากและที่แห่งนี้จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่นกัน ทั้งโดดน้ำล่อง สไลน์เดอร์ ล่องห่วงยาง

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารนางบด ( 8 )

บ่าย

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางด้วย รถตู้ VIP โดยการขึ้นทางด่วนสายแรกของลาว ทางด่วนลาว-จีน มีจุดเริ่มต้นในเวียงจันทน์ และสิ้นสุดที่วังเวียง มีความยาวประมาณ 110 กิโลเมตรกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวลาวเอง เพราะสามารถย่นระยะทางในการเดินทางไปยังวังเวียงได้ จาก 4 ชม.เหลือเพียง 1 ชม.เท่านั้นเอง เพื่อเดินทางกลับเข้านครหลวงเวียงจันทร์ ก่อนที่ท่านจะออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ จะนำท่านไปขอพร ชอโชค ขอพรพญานาค สักการะ สิมพ่อปู่ศรีสุทโธ พ่อปู่ศรีสัตตนาคราช เป็นสิมที่คนลาวให้ความเคารพนับถือมานานแล้ว ว่ากันว่าเรือลำไหนถ้าล่องผ่านล้าไม่ขึ้นมาไหว้จะมีอันเป็นไป เมื่อได้รับพรทุกท่านแล้ว นำทุกท่านส่งที่ด่าน ตม.ลาว และพาแวะ ร้านดิวตี้ฟรี (กรุณาตรวจสอบการเปิด-ปิดกับไกด์ของท่าน) อิสระช้อปปิ้ง สินค้าปลอดภาษีราคาถูก และเมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองสปป.ลาว ส่งท่านหน้าด่านจังหวัดหนองคาย 

 ถึงประเทศไทย นำคณะเดินทางสู่อุดรธานี  ด้วยความสวัสดิภาพ